Customer Reviews

5
คุณจะไม่ลืม เด็กน้อยตัวเล็กๆ ที่ชื่อ โต๊ะโตะจัง เมื่อคุณได้รู้จักเธอมากขึ้น
โดย: Ja_Leyla วันที่เขียนรีวิว: 14 มีนาคม พ.ศ. 2558

ที่ฉันสนใจหนังสือเล่มนี้เพราะว่า ระหว่างที่ฉันนั่งเล่นโน๊ตบุ๊คอยู่นั้น หันไปโต๊ะหนังสืออีกที เห็นหลานกำลังอ่านหนังเล่มนี้ ดังนั้น จึงอดให้ความสนใจไม่ได้ จึงมีโอกาสได้ลองอ่านดู ยอมรับว่าเป็นหนังสือที่มีผู้เขียนเป็นคนญี่ปุ่น เล่มแรกที่ฉันอ่าน แต่หนังสือเล่มนี้กลับกลายเป็นว่า..ทำให้ฉันประทับใจในการเขียนของคนญี่ปุ่นไม่ใช่น้อยเลยที่เดียว เพราะหนังสือเล่มนี้ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น แต่สำหรับฉันหลังจากอ่าน ไม่ว่าจะวัยได้ก็อ่านได้ทั้งนั้น ซึ่งการตีพิมพ์ถึง 6 ล้านเล่ม สำหรับภาษาญี่ปุ่น ก็เป็นตัวการันตีหนังสือเล่มนี้อยู่แล้ว และได้รับการตีพิมพ์ไปหลายประเทศทั่วโลก และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันตกใจคือ ฉันนึกว่า เป็นหนังสือที่เพิ่งเริ่มต้นตีพิมพ์ไม่นาน แต่จริง ๆ แล้ว เป็นหนังสือที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ ค.ศ. 1983 ซึ่งแบบว่า คือ ฉันยังไม่เกิด แต่หนังสือเล่มนี้กลับได้รับความนิยมอ่านจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเจ๋งจริง ๆ และบอกได้เลยว่าหลังจากที่อ่าน คุณจะจดจำเด็กน้อย โต๊ะโตะจัง ได้แน่นอน โต๊ะโตะจัง เป็นเด็กดื้อ แต่ร่าเริง สดใส แต่ด้วยพฤติกรรมของเธอจึงต้องออกจากโรงเรียนเดิม แต่เมื่อมาอยู่โรงเรียนใหม่ เธอก็ได้พบอะไรใหม่ ๆ เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก ซึ่งโรงเรียนใหม่ของเธอชื่อ โทโมเอ ประตูของโรงเรียนทำมาจากไม้แท้ ๆ แล้วเมื่อเธอมองเข้าไปก็ตกใจเมื่อเจอตู้รถไฟ ทำเอาโต๊ะโตะจังประหลาดใจ ที่โรงเรียนนำตู้รถไฟมาทำเป็นห้องเรียน (แต่ฉันคิดว่ามันก็เก๋ ๆ ดีนะ) นอกจากนี้ หนุ่มน้อยไทจังเป็นหนุ่มน้อยคนหนึ่งที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของโต๊ะโตะจัง และโต๊ะโตจังชอบเหลาดินสอให้ไทจัง โดยมีดเหลาดินสอ แต่ของตัวเองเหลาใช้ฟันกัด ซึ่งอ่านถึงตรงนี้แล้ว ทั้งดูน่ารักและน่าแอบอมยิ้มเล็ก ๆ นะ และฉันก็แอบนึกไม่ออกเลยว่า การที่ใช้ฟันกัดจะเป็นยังไง ซึ่งนี้อาจจะเป็นจุดเล็ก ๆ แต่สำหรับฉันมันเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ประทับใจในเล่มนี้เลยล่ะ แต่เชื่อว่าแต่ละคนที่อ่านเล่มนี้ก็จะมีความประทับใจที่แตกต่างกัน ดังนั้นต้องอ่าน แล้วคุณจะเข้าใจชีวิตที่โรงเรียนสไตล์ญี่ปุ่นมากขึ้น
Harry Potter เล่ม 02 แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับห้องแห่งความลับ (ปกอ่อน)
5
ความลับของห้องแห่งความลับซ่อนอะไรไว้ ต้องอ่านจ่ะ
โดย: Ja_Leyla วันที่เขียนรีวิว: 14 มีนาคม พ.ศ. 2558

สำหรับหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ห้องแห่งความลับ ทำให้ทั้งฉันและตัวแฮร์รี่เองได้เข้าสู่ปีที่ 2 ของการรู้จักโลกแห่งพ่อมดแม่มด ซึ่งในเล่มนี้ทำให้ฉันพบกับเอลฟ์ ที่แม้จะทำให้ชีวิตของแฮร์รี่ เหมือนจะวุ่นวายขึ้น แต่ที่ทำไปทั้งหมด ก็เพื่อแฮร์รี่ ซึ่งเอลฟ์ตัวน้อย ๆ ผู้ที่ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ผู้นี้ คือ ด็อบบี้ (ส่วนตัวฉันชอบชื่อด็อบบี้มาก เพราะน่ารักฟรุ้งฟริ้ง ผสมกับความวุ่นวายกวนๆ ในแบบฉบับของด็อบบี้) แต่ถ้าเล่มนี้ไม่มีด็อบบี้ก็จะไม่มีสีสัน และการที่คนอื่นรู้ว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ พูดภาษางูได้ก็ทำให้หนังสือเล่มนี้มีความเข้มข้นขึ้น เกิดความสับสนความไม่แน่ใจ ในเรื่องทายาทสลิธิริน ตัวแฮร์รี่เองก็เกิดความเครียด ฉันก็เครียดไปด้วย คือ อ่านแล้วลุ้นอ่ะ และการที่มีสมุดบันทึกลึกลับที่มีความพิเศษของผู้ชาย ที่ชื่อ ทอม ริดเดิ้ลเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้บางทีฉันอยากมีสมุดเล่มนี้ เพราะการที่เขียนอะไรลงไปแล้วและมีการตอบโต้กลับมาได้มันเป็นอะไรที่เก๋มาก ๆ แต่หนังสือเล่มนี้ก็อันตรายมากเช่นกัน ซึ่งต้องอ่านนะ แล้วจะเข้าใจ นอกจากนี้ ยังทำให้ฉันได้รู้จักกับสมาชิกในครอบครัวของรอนมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งก็คือน้องสาวคนเล็กของรอน ที่ชื่อว่า เจนนี่ โดยเจนนี่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสำคัญกับเนื้อเรื่องตอนสุดท้าย และห้องแห่งความลับนั้นก็ดูน่ากลัวจริงไรจริง พอจินตนาการตามแล้วไม่อยากจะเข้าไปเลย และการที่ต้องพบเจอใครที่ห้องแห่งความลับก็ทำให้อึ้งไปเลยละ
ดาวบันดาล
3
คุณจะพบอีกมุมมองหนึ่ง เกี่ยวกับผู้ที่เป็นมะเร็งและเรื่องราวที่เข้ามาในชีวิตของพวกเขา
โดย: Ja_Leyla วันที่เขียนรีวิว: 03 มีนาคม พ.ศ. 2558

เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่นำเอาโรคมะเร็งมาเป็นตัวผูกเนื้อเรื่องให้หนังสือเล่มนี้ มีความแตกต่างจากหนังสือเล่มอื่น ๆ และทำให้เข้าใจความรู้สึกของผู้ที่เป็นมะเร็ง เพราะตอนที่ฉันอ่าน ฉันได้สัมผัสความรู้สึกของเฮเซล แลงเคสเตอร์ หญิงสาวเพียงวัยแค่ 16 ปีเท่านั้นแต่ต้องมาประสบพบเจอกับโรคหนึ่งที่ไม่มีใครในโลกนี้อยากจะเป็น ซึ่ง เฮเซล มีความซึมเศร้า เธอก็เหมือนคนทั่ว ๆ ไป พอรู้ว่าตัวเองเป็นโรคดังกล่าว จึงค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคดังกล่าว มันยิ่งทำให้เธอจิตใจย่ำแย่ หดหู่ (ฉันอ่านฉันก็เศร้าไปด้วย TT) แต่การที่มีผู้ชายคนหนึ่งเขามาในชีวิต ออกัสตัส วอเทอร์ ก็ทำให้ชีวิตของเธอได้พบกับสิ่งที่แปลกใหม่ ออกัสตัส มีความคิดเห็นที่แตกต่าง ทำให้ความรู้สึกที่เคยกลัวเกี่ยวกับมะเร็งมาก ๆ ได้ผ่อนคลาย ออกัสตัส เป็นคนมีน่ารักและก็เป็นคนที่แสดงออกในเรื่องของความรัก คือ เราสัมผัสความรักของ ออกัสตัส ที่มีต่อ เฮเซลได้อ่ะ และสเน่ห์ของหนังสือเล่มนี้ อยู่ที่การหักมุมของในหนังสือ ทำให้ฉันคิดตามไปเรื่อย ๆ แต่อ่าน ๆ ไป กลับกลายเป็นว่า เอ้ย ทำไมเป็นแบบนั้นละ ทำไมเป็นแบบนี้ โอ้ย ไม่นะ อ่าน ๆ ไป นี่คือน้ำตาไหลจริง ๆ เราว่าถ้าใครได้อ่านก็ต้องร้องเหมือนเรา เพราะว่ามันมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ทำให้คุณขาดไม่ถึง แต่สำหรับเรา คำบางคำ อ่านแล้วเราเข้าใจยากไปหน่อย เราชอบคำง่าย ๆ ฮ่าๆ เพราะเราอ่านหลายรอบมาก บางคำที่เป็นคำสวย ๆ แต่พออ่านทวนบ่อย ๆ ก็จะเข้าใจความหมาย ^^
4
มีตั้งต่ 500 ร้านต้องมีสักร้านแน่นอนที่คุณชอบ
โดย: Ja_Leyla วันที่เขียนรีวิว: 03 มีนาคม พ.ศ. 2558

เนื้อหาในเล่มสมกับชื่อร้านเด็ด คือประมาณว่าเห็นที่นี่อย่างหิวอ่ะ คือ นำภาพจริงจากร้านนั้นมาประกอบเลยจร้า เวลาอ่านจึงไม่ค่อยอยากจะอ่านเวลาหิวเท่าไหร่ ชอบอ่านตอนทานอาหารเสร็จมากกว่า เพื่อใช้เป็นโปรแกรมหน้าไว้นัดเพื่อนไปหาร้านทานกัน หนังสือเล่มนี้ เหมาะกับฉันมาก เพราะฉันเป็นคนที่ชอบเปลี่ยนร้านไปเรื่อย ๆ ไม่ชอบทานร้านอาหารที่จำเจ ถ้าใครที่ชอบเหมือนฉัน คือ ขี้เบื่อง่าย เหมาะที่จะอ่านเล่มนี้นะ นอกจากนี้ แต่ละร้านที่ปรากฏในได้มีแผนที่ประกอบซึ่งทำให้ง่ายต่อการหาร้านอาหารนั้น ๆ และก็จะมีเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อ คือ ใครที่ไม่ชอบดูแผนที่ก็โทรได้เลยจร้า ส่วนสายรถก็ไม่ต้องห่วงมีบอกด้วย และที่อินเทรนด์ คือ มีคิวอาร์โค๊ช ฟินค่ะพูดเล่อ เนื่องจากทันสมัยตามยุคปัจจุบันจริง ๆ ส่วน 500 ร้านอาหารในย่านกรุงเทพฯที่ประกอบในหนังสือเล่มนี้มีความหลากหลาย เรียกได้ว่ามีทุกสไตล์ ใครที่ชอบร้านข้างทางก็มี ร้านน่ารัก ๆ ก็มี หรือใครที่ชอบแนวหรู ๆ ก็มีจร้า ซึ่งมันใช่อ่ะ ฉันทานได้ทุกร้าน ทุกสไตล์ นอกจากร้านอาหารมีความหลากหลายแล้ว อาหารก็หลากหลายเช่นกัน เช่น น้ำต่าง ๆ ชางี๊ ส้มตำอีก เค้กก็มี จัดเต็มจร้า อีกอย่างที่ชอบในเล่มนี้ คือ มีทั้งเวลาเปิด ปิดของร้านนั้น ๆ ทำให้ไปแล้วไม่เก้อ อีกทั้งยังทำให้ฉันได้เตรียมเงินไปได้ถูก เพราะว่า..มีราคาประมาณของร้าน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินเลยจ่ะ^^ อีกทั้งหนังสือเล่มนี้ยังทำให้ฉันนึกภาพตาม เพราะร้านที่แนะนำจะเป็นร้านที่อยู่บนถนนทั่วไป ซึ่งบางที่ก็คิดตามว่าเส้นทางนี้เราเคยขับรถผ่านหนิ แต่เราเพิ่งได้รู้จากหนังสือเล่มนี้ล่ะ ว่ามีร้านอยู่ตรงนี้ด้วยนะ เพราะบางที่ไม่ได้ทันสังเกต มันทำให้เรามีร้านที่ทานเพิ่มมากขึ้น หรือทำให้เราอยากขับรถไปเส้นนั้น ๆ อีกเพื่อหาร้านที่เรายังไม่เคยไปทาน แต่เราเคยขับรถผ่าน เรียกได้ว่า เป็นการทบทวนความจำอย่างหนึ่งเลยล่ะ
5
ถ้าก้าวเข้าสู่ช่วงที่ต้องหางานทำ หรือมองหาการสมัครงาน ลองอ่านเล่มนี้ดูซิ
โดย: Ja_Leyla วันที่เขียนรีวิว: 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ต้องบอกก่อนว่าก่อนเปิดหนังสืออ่าน นึกว่าจะเป็นหนังสือที่แบบประมาณว่า.. พูดว่า ภาษาอังกฤษ มีความสำคัญยังไงโน้นนี่นั้น อะไรแบบนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการสมัครงาน แต่ไม่ใช่เลยจร้า พอเปิดหนังสือมาปุ๊ป รู้เลยว่าเล่มนี้มีสาระนะ และยิ่งเหมาะยิ่งกับผู้ที่ยังไม่เคยสมัครงานที่ไหนมาก่อน เพราะเล่มนี้ ได้แนะแนวคุณตั้งแต่การเตรียมตัว ต้องทำอะไรยังไงบ้าง พออ่านปุ๊บนึกถึงตัวเองเลย เพราะที่ผู้เขียนกล่าวไว้หนังสือนั้น เหมือนกับฉันเลยที่ได้ผ่านการเตรียมตัวอะไรแบบนั้นมาก่อน ส่วนวิธีการสมัครมีช่องทางใดบ้างนั้น ก็มีเช่นกัน เพราะคนที่ยังไม่เคยสมัครงานก็จะมีบ้างใช่ป่ะ ที่แบบงงๆ ว่าเออนะ ต้องเริ่มตรงไหน หาจากแหล่งใด ไรแบบนี้ ซึ่งหนังสือเล่มนี้บอกไว้แล้ว หลังจากที่ไม่รู้ว่าเริ่มหางานจากแหล่งไหนแล้ว แล้วใครที่มีคำถามว่า แล้วจะเขียนสมัครงานยังไง เขียนแบบไหนดี เล่มนี้ก็จัดไปให้ผู้อ่าน มีตัวอย่างประกอบให้เห็นชัดเจน ทั้งในแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ดังนั้น ซึ่งในหนังสือเล่มนี้ จึงทำให้คำภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการสัมภาษณ์งาน ผ่านตาคุณอย่างแน่นอนเวลาเห็นใบสมัครคุณก็จะรู้สึกคุ้น ๆ กับคำศัพท์ทันที นอกจากนี้ หนังสือเล่มนี้ ยังทำให้ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องสัมภาษณ์จริง ๆ เพราะในหนังสือจะจำลองเหตุการณ์การสัมภาษณ์งานอาชีพต่าง ๆ ให้คุณได้อ่านกันทั้งในฝั่งของผู้ที่มาสัมภาษณ์และผู้ที่ถูกสัมภาษณ์ แถมยังมีคำศัพท์แบบจัดเต็มไว้ถ่ายเล่ม เช่น ชื่ออาชีพ ระดับการศึกษาต่าง ๆ เป็นต้น
4
ถ้าชอบประเทศเกาหลีอยู่แล้ว ไม่ครวพลาดเล่มนี้นะ
โดย: Ja_Leyla วันที่เขียนรีวิว: 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ฉันคิดว่าหนังสือเล่มนี้สามารถเป็นประโยชน์ให้กับฉันได้ เมื่อเวลาที่ฉันจะไปเที่ยวประเทศเกาหลี ตอนแรกก็ไม่เข้าใจหรอกทำไมตีพิมพ์หลายครั้ง เลยลองจับหนังสือขึ้นมาอ่าน โดยส่วนตัวก็ Crazy เกาหลีอยู่แล้ว พอเริ่มเปิดอ่านปุ๊ป ถึงแม้ว่าหนังสือเล่มนี้ จะไม่ได้ใช้ภาพประกอบเหมือนหนังสือเล่มอื่น ๆ ที่ใช้ภาพสถานที่จริง ๆ ของประเทศเกาหลี เช่น ภาพอาหาร ถนน รถ โรงแรม บลา บลา บลา แต่เป็นหนังสือที่สามารถอ่านต่อไปได้เรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นหนังสือที่มีทั้งภาษาไทยและคำอ่านภาษาไทยกำกับไว้ พร้อมทั้งภาษาเกาหลี ถ้าคิดว่าตอนไปเที่ยวเกาหลีแล้วกลัวว่าจะพูดไม่ถูก หรือเสียงที่ออกไปอาจจะไม่ใช่ อารมร์ว่าคนเกาหลีอาจจะฟังไม่ออก ก็สามารถเปิดหนังสือให้เขาอ่านได้เลย ฮ่าๆ ง่ายสุด เพราะว่า ตัวหนังสือตัวใหญ่อ่านง่ายชัดเจน โดยในหนังสือจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ใหญ่ๆ ไว้ แล้วย่อยคำศัพท์ไว้เยอะมาก ซึ่งตอนเปิดศัพท์ยังไม่อ่าน ดูผ่านตาคราว ๆ คิดในใจ เออนะ รวบรวมได้ยังไง ซึ่งเป็นศัพท์ละเอียดมาก แทบไม่พลาดเลย สำหรับที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันอะนะ ขอวกกลับมาที่เรื่องภาพประกอบเพิ่มเติม ภาพที่ประกอบนั้นเป็นการ์ตูน แต่ก็ทำให้เข้าใจง่าย และน่าสนใจ ที่ใครที่ชอบภาพการ์ตูนอยู่แล้วคงถูกใจใครหลายๆ คน เพราะภาพค่อยข้างน่ารัก แต่ส่วนตัวอยากได้ภาพสี ที่เป็นภาพจริงๆ เพราะไมใช่อะไรหรอก นอกจะทำให้ฉันอินมากกขึ้น ยังกระตุ้นอารมณ์อยากทานอาหารและอยากไปที่นั้นๆอีกด้วย (อารมณ์ว่าชอบมโนตามภาพ 555 ) และอีกหนึ่งอย่างที่ประทับใจในหนังสือเล่มนี้ คือ มีบอกเรื่องเงินวอนของประเทศเกาหลี ทำให้เข้าใจค่าเงินที่จะคำนวณในง่ายขึ้น สำหรับแล้วเรื่องการใช้เงินสำคัญนะ เพราะเวลาจะช็อปปิ้ง ซื้อของต่างๆ แม้กระทั้งของกิน จะได้คำนวณได้คราว ๆก่อนเดินทาง จะได้เตรียมไปถูกจะได้ไม่ต้องไปนั่งลุ้นตอนไปถึงที่โน้นว่าเงินพอไหม อิอิ
นิทาน 2 ภาษา เรื่อง Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ
5
ถ้าไม่มีคำสาป การผจญภัยต่าง ๆ ที่น่าตื่นเต้นก็คงไม่เกิดขึ้น
โดย: Ja_Leyla วันที่เขียนรีวิว: 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Frozen เป็นที่รู้จักกันดีในแบบฉบับภาพยนตร์ ซึ่งเรียกได้ว่าชนะใจคนดูหลาย ๆ คน โดยเฉพาะเด็ก ๆ และ Frozen ในแบบฉบับหนังสือนั้น ให้ความเพลิดเพลินไม่แพ้กัน เนื่องจากภาพที่ประกอบในหนังสือนั้นเป็นภาพจากภาพยนตร์ที่ได้ชมกันนั้นเอง เป็นการดึงดูดให้อยากอ่านและเพิ่มอรรถรสให้กับหนังสือเล่มนี้ไม่เบาเลยที่เดียว ซึ่งในระหว่างที่ฉันนั่งอ่าน ๆ ไปให้ความรู้สึกว่า ดูภาพยนตร์ในแบบภาพนิ่งนั้นแหละ แค่อ่าน subtitle นั้นเอง ซึ่ง subtitle ในหนังสือเล่มนี้ เรียกได้ว่า.. มีทั้ง 2 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ นอกจากได้ความเพลินเพลิดแล้ว ยังได้ทราบเรื่องราวในแบบฉบับภาษาอังกฤษอีกด้วย คุ้นเสียยิ่งกว่าคุ้มอีก^^ แต่ Frozen ในแบบฉบับหนังสือนั้น เป็นการดำเนินเรื่องแบบกระชับมากกว่าภาพยนตร์ แต่ก็ยังคงความเป็น Frozen ซึ่งเป็นเสน่ห์ของหนังสือเล่มนี้ ทำให้เกิดความเข้าใจง่าย ซึ่งคำพูดของ อันนา ยังคงความน่ารักให้อดอมยิ้มไม่ได้ ส่วนแอลซ่า ก็คงยังมีคำพูดให้กินใจอยู่ และ โอลาฟ ที่ทำให้สีสันของหนังสือเล่มนี้น่าอ่าน เพราะความน่ารักในตัวของเขา และรอยยิ้มหวานๆ (รอยยิ้มนี้ชอบเป็นการส่วนตัวจริง ๆ) และที่ขาดไม่ได้ คือ คริสตอฟฟ์ พระเอกของเรื่องที่ร่วมพจญภัยไปกับอันนาในการตามหาพี่สาวของเธอ ซึ่งในหนังสือตัวละครเด่น ๆ อยู่กับครบ และยังมีคำพูดที่โดนใจผู้อ่านอย่างแน่นอน ส่วนหน้าปกหนังสือนั้น ดึงดูดใจให้อยากเช่นกัน หนังปกเหมือนหนังทำให้เกิดรู้สึกอยากเห็นเนื้อหาข้างใน ซึ่งเนื้อหาข้างในก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน ผู้ที่เป็นแฟนตัวยงของ Frozen ต้องอย่าพลาดน้า เราคงหนึ่งยังไม่พลาดเรียกได้ว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
Harry Potter เล่ม 01 แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ (ปกแข็ง)
5
หนังสือเล่มนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากอ่านหนังสือเล่มอื่นๆ ฟันธง
โดย: Ja_Leyla วันที่เขียนรีวิว: 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ ไม่ใช่หนังสือที่ให้ความสนุกแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นหนังสือที่สามารถใช้ในการเรียนรู้ชีวิตและสามารถนำมาปรับใช้ได้ เพราะประกอบไปด้วยหลาย ๆ อย่าง ทั้งด้านการใช้ชีวิต ครอบครัว เพื่อนและสังคม เป็นต้นค่ะ โดยเนื้อหาในเล่มนี้ทำให้ฉันได้รู้จักกับเด็กชายที่ชื่อว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ ในช่วงเวลาที่ยังไม่เป็นพ่อมด ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญที่นำมาซึ่งการก้าวเข้ามาเป็นพ่อมด ซึ่งเมื่อเปิดหนังสืออ่านแผ่นแรกก็น่าติดตามแล้ว นอกจากนี้ฉันยังรู้สึกเหมือนว่าหนังสือเล่มนี้สามารถสะกดจิตได้ ยังกับมีเวทมนตร์จริง ๆ ต้องลองอ่านดูแล้วจะเข้าใจคำนี้ เพราะเมื่อเริ่มต้นอ่านแล้วจะไม่อยากวางหนังสือลงเลย เพราะฉันเริ่มอ่านเล่มนี้ตอนสอบปลายภาค แต่ยอมอ่านเล่มนี้สลับกับหนังสือสอบเลยอ่ะ คืออยากจะอ่านตอนต่อ ๆ ไปในเล่มนี้ต่อ เพราะถึงแม้ว่าจะดูภาพยนตร์มาแล้วอย่าคิดว่าอ่านแล้วจะสนุกน้อยลง เพราะฉันเริ่มต้นจากการดูภาพยนตร์ก่อน แล้วค่อยอ่านหนังสือเหมือนกัน แต่ในหนังสือกลับยิ่งทำให้เข้าใจตัวละครทุกตัวมากขึ้น และเข้าใจสาเหตุหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่าง ๆ รวมถึงความรู้สึกของแฮร์รี่ที่ต้องเจอเรื่องราวถาโถมเข้ามาในชีวิตทุกด้าน ตั้งแต่ตอนเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่อยู่ห้องใต้บันได แถมยังถูกลูกพี่ลูกน้องอย่างดัดลีย์ที่คอยกลั่นแกล้ง (ฉันแอบเจ็บปวดแทน) ความรู้สึกอึดอัดต่าง ๆ เกิดขึ้น รวมถึงเรื่องที่ตนไม่เคยคาดคิดเกี่ยวกับความหลังของตนเองและเรื่องที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับโลกเวทมนตร์ และแผลเป็นบนหน้าผาก (ทำให้เกิดความสงสัยตาม) ซึ่งผู้เขียนผูกเรื่องได้ดีมาก ยิ่งอ่านตอนที่แฮร์รี่พูดคุยรู้เรื่องกับงู มันเป็นอะไรที่ให้ความมหัศจรรย์จริง ๆ รวมถึงการพบเจอสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตรอกไดแอกอนตรอกสถานที่สำหรับจับจ่ายซื้อของหรือแม้กระทั่งโรงเรียนฮอกวอตส์ที่ทำให้ฉันได้สัมผัสกับความอลังการของโรงเรียนนี้ อยากได้มีโอกาสได้เข้าไปเรียนสักครั้งจริงๆ เนื่องจากในหนังสือได้บรรยายรายละเอียดทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ฉันได้เข้าใจ กฎของการใช้ชีวิตอยู่ในบ้านต่าง ๆ ที่ฮอกวอตส์ การเปลี่ยนแปลงของบันไดที่มีการเขียนที่ตลอดเวลาหรือแม้กระทั้งเพดานของฮอกวอตส์ที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลหรือเวลา ได้เข้าใจพฤติกรรมของผู้ที่ปรากฏบนรูปถ่ายบนกำแพงที่สามารถพูดได้อีกด้วย และการมีปากเสียงกันของ 2 เพื่อนซี้ระหว่างเฮอร์ไมโอนี่กับรอนทำให้ฉันอมยิ้มได้จริงๆ ทะเลาะกันตลอดเวลาจ้า ไม่พ้นให้แฮร์รี่ต้องห้ามปราบอยู่บ่อย ๆ นอกจากนี้ตอนที่กำลังเล่นหมากรุกพ่อมดนั้น เป็นอะไรที่ทำให้ฉันอินถึงขั้นร้องไห้เลยที่เดียว เนื่องจากมิตรภาพและสถานการณ์ที่บีบบังคับ แต่น่าเสียดายที่คนที่คุณก็รู้ว่าใครและความอาถรรพ์ของศิลานั้น มีบทบาทน้อยไปหน่อย กลายเป็นเรื่องผจญภัยเสียมากกว่า ทำให้เกิดปัญหาคาใจต้องตามไปอ่านเล่มต่อไปค่ะ แต่ใครชอบเรื่องการผจญภัยหรือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าน่าจะชอบเล่มนี้ค่ะ
www.batorastore.com © 2024